ห่างหายจากการเขียนบล็อคไปนาน ช่วงนี้มีเวลาว่างได้กลับมาเขียนอีกรอบ รู้สึกตื่นเต้นและคันมือเป็นที่สุด!
กระทู้นี้พิกกี้จะเขียนเรื่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ค่ะ จริงๆแล้วพิกกี้ไปเที่ยวตั้งแต่ตุลาคม2015แล้ว แต่ไม่มีโอกาสได้เขียนสักที ตอนนี้เคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีเวลามาเขียนแล้ว และเหมือนเดิมคือเน้นกินและเที่ยวมากกว่าช็อปปิ้งค่ะ 555
พิกกี้ได้หยุดยาวติดกัน 6วัน เลยใช้วันหยุดนี้ไปเที่ยว แผนการเที่ยววางแผนไว้อย่างดิบดีเลยค่ะ แต่เอาเข้าจริงๆได้เที่ยวตามแผนบ้างนอกแผนบ้าง แล้วแต่สถานการณ์และความตื่นสายไม่มีกำหนดตายตัวน่ะค่ะ
ต้องขอออกตัวก่อนว่าทริปนี้เป็นทริปบินเกือบฟรีและนอนเกือบฟรี คือมีผู้สนับสนุนบางส่วน ที่เหลือออกเองค่ะ
ขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนหลัก ดังนี้
* สายการบิน AIR ASIA X บินตรงสู่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เลย ทริปนี้ Piggy ได้ตั๋วมาฟรีแต่ต้องเสียค่า กระเป๋าเองค่ะ
* ที่พักฟรี 2 คืน 3 วัน ที่โรงแรม Novotel Ambassador Gangnam
* Airbnb สำหรับที่พักที่สะดวกสบายอีก3คืนที่เหลือ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและการค มนาคมที่สะดวกมากกกก กอไก่ล้านตัว(ค่าใช้จ่ายนี้ออกเองนะคะ ไม่มีผู้สนับสนุน)
* สายการบิน AIR ASIA X บินตรงสู่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เลย ทริปนี้ Piggy ได้ตั๋วมาฟรีแต่ต้องเสียค่า
* ที่พักฟรี 2 คืน 3 วัน ที่โรงแรม Novotel Ambassador Gangnam
* Airbnb สำหรับที่พักที่สะดวกสบายอีก3คืนที่เหลือ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวและการค
27 Oct'15
เวลา 01.55 AM ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งตรงถึงกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เวลา 09.15 AM สภาพอากาศเป็นใจมากเพราะท้องฟ้าแจ่มใส มีลมแรงบางช่วงแต่เห็นก้อนเมฆและดวงอาทิตย์ชัดเจน
สิ่งที่ใครหลายๆคนเกรงกลัวกันก็คือ ตม.เกาหลีอันเลื่องชื่อ หลายคนไซโคกรอกหูพิกกี้ว่าโหดอย่างนั้น โหดอย่างนี้ ต้องแต่งตัวดีๆ แต่งหน้าหน่อยๆ มองตาเจ้าหน้าที่ บลา บลา บลา พิกกี้เองก็แอบหวั่นๆจากกิตติศัพท์ที่ได้ยินมา 555 เมื่อเครื่องแลนดิ้ง ลงจากเครื่องก็เดินตามป้าย Arrival ไปเรื่อยๆ จนไปเจอรถไฟเพื่อพาเราไปยังอีก Terminal เพื่อไปผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ก็เข้าแถวกันไปเรื่อยๆ สิ่งที่ต้องเตรียมคือพาสปอร์ตและใบ ตม. ที่เรากรอกบนเครื่อง
พิกกี้กับเพื่อนก็ยืนรอในแถวไปเรื่อยๆ จนถึงคิวก่อนหน้าเป็นผู้หญิงคนไทย แต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็มมาก เสื้อโค๊ทมีเฟอตรงคอ พร้อมรองเท้าบูทชนิดที่ว่ากันหิมะกัดขาได้ ในใจก็คิดว่า เห้ย!เขามาเต็มมาก คงผ่านแบบฉลุยแน่ๆ ไอ้เราก็ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ พร้อมหน้าที่ยังไม่ได้ล้างและฟันที่ยังไม่ได้แปรง จะผ่านไหมกรู ตายแน่ๆงี้ ปรากฏว่า คุณพี่ท่านนั้นถูกเชิญไปอยู่ในห้อง ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่เห็นว่าพี่เขามีน้ำตาคลอๆตอนที่เดินเข้าห้องนั้นไป จนมาถึงคิวพิกกี้กับเพื่อนเจ้าหน้าที่เรียกให้เข้าคนละช่อง แอบหวั่นๆว่าไม่ใครก็ใครจะโดนเรียกหรือเปล่า พิกกี้กับเพื่อนเหลือบมองหน้ากัน ประหนึ่งให้กำลังใจกัน 555 ได้ ตม. เป็นผู้ชายเหมือนกัน
ณ เคาท์เตอร์ ตม.
พิกกี้: Hi, Good morning. ทักทายพร้อมยื่นพาสปอร์ตและใบตม
โอ้ปป้า ตม: Hi! What are you doing here? How many day will you stay here? ทำหน้าเข้ม คิ้วขมวดพร้อมกับพลิกพาสปอร์ตดูทีละหน้า และมองหน้าพิกกี้
พิกกี้: I'm here for travel and will be stay here for six days. ตอบคำถามพร้อมแจกยิ้มไปหนึ่งที
โอ้ปป้า ตม: Are you here alone? Do you have any.....travel plan? นางถามคำถามก้มดูพาสปอร์ตแล้วอยู่ดีๆ นางก็หยุดกึกชะงักไป แล้วเงยหน้ามาถามต่อ
พิกกี้: ด้วยความสงสัยว่านางชะงักไปทำไม เลยก้มลงไปมอง เลยเห็นว่านางเปิดไปเจอหน้าวีซ่าที่พิกกี้เคยไปเยอรมันมา แล้วตอบนางว่า I'm here with my friend and here is my travel plan. พร้อมยื่นแผนการเที่ยวที่เตรียมไว้ให้นางดู
โอ้ปป้า ตม: เหล่ตามองแผนการเที่ยวแต่ไม่หยิบไปดู แล้วปั๊ม ตม. บนพาสปอร์ตให้ พร้อมผายมือให้พิกกี้เดินเข้าไป
พิกกี้รับพาสปอร์ตมาอย่างงงๆ เหยยย เสร็จแล้วหรอ ยังไม่ถึงห้านาทีเลย ไหนหล่ะที่เขาว่าน่ากลัวนักน่ากลัวหนาน่ะ สรุปก็ผ่าน ตม. แบบงงๆ จากนั้นก็ยืนรอเพื่อนซึ่งใช้เวลาไม่นานเหมือนกันแล้วไปรับกระเป๋าที่สายพาน
รับกระเป๋าเสร็จแล้ว พิกกี้กับเพื่อนก็แวะห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนชุด กันให้พร้อม เพราะเกรงใจคนบนรถไฟ อาจจะเหม็นขี้ฟันเอาได้ 555 แล้วคุยกันว่าจะเอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรมก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน จากนั้นเดินตามป้าย Taxi/Bus หรือ Airport Railroad ไปเรื่อยๆ เพื่อไปขึ้นรถไฟเข้าเมือง จริงๆแล้วมีวิธีเข้าเมืองหลายวิธี ทั้งแท็กซี่ รถบัส รถไฟ พิกกี้เลือกรถไฟเพราะโรงแรมที่พักอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน แต่ก่อนที่จะไปขึ้นรถไฟ พิกกี้ต้องหาซื้อบัตร T-Money ก่อน บัตรนี้คล้ายๆบัตร Rabbit BTS ของบ้านเรา คือใช้ขึ้นรถไฟฟ้า รถบัส ซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ใช้ได้หมด เงินหมดก็เติมได้ทั้งตู้เติมหรือในซุปเปอร์ เรียกว่าบัตรเดียวใช้ได้สะดวกเกือบทุกอย่าง มีค่ามัดจำบัตรด้วย จะได้คืนตอนเรานำบัตรไปคือ ส่วนเท่าไหร่นั้นพิกกี้จำไม่ได้แล้ว 5555 พิกกี้เองไม่ได้คืนหรอก เพราะเก็บบัตรมาเป็นที่ระลึกค่ะ
บัตรT-Money |
พิกกี้ใช้บริการ รถไฟใต้ดิน Airport Railroad (AREX) มี 2 แบบคือ แบบธรรมดาจอดทุกสถานี (Commuter) และแบบด่วนจอดแค่สถานีปลายทางสถานีเดียว (Express) พิกกี้กับเพื่อนเลือกใช้แบบธรรมดา เพราะมีกระเป๋าเป้แค่คนละใบ สัมภารกไม่เยอะเลยนั่งชิวๆได้ จาก Incheon International Airport พิกกี้นั่งมาลงที่สถานี Gimpo airport เพื่อเปลี่ยนไปใช้รถไฟใต้ดินสาย 9 สีน้ำตาลไปลงที่สถานี Shinnonhyun station แล้วใช้ทางออกหมายเลข 4 จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณห้านาที จะพบโรงแรม Novotel Seoul Ambassador Gangnam ซึ่งเป็นที่พักช่วงสามคืนแรกอยู่ทางขวามือ ถึงโรงแรมแล้วก็จัดการทำเรื่องเช็คอิน และเตรียมฝากกระเป๋า แต่ด้วยความโชคดี ห้องที่พิกกี้จองไว้แขกที่อยู่ก่อนหน้า early check out ไปตั้งแต่เช้าตรู่ พิกกี้เลยได้ห้องก่อนเวลาเช็คอิน พนง.เลยให้พิกกี้ขึ้นห้องได้ ขอบคุณจริงๆนะคะ สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นนี้ ^___^
Novotel Ambassador Gangnam |
หลังจากวางสัมภารกต่างๆ เตรียมเสื้อแขนยาวไปปะทะความเย็นของเดือนตุลาเรียบร้อย พิกกี้กับเพื่อนก็ออกไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวละแวกที่พัก ซึ่งได้แก่ Garosu-gil, Hongdae, Edae, Itaewon และ Gangnam
* กาโรซูกิล (Garosu-gil) รถไฟใต้ดินสาย3 สีส้ม สถานีSinsa exit 8 หรือลงที่สถานีApgujeoung
ถนนกาโรซูกิล ย่านSinsa เขตGangnam เป็นย่านการค้าที่รวบรวมคาเฟ่น่ารักๆ สินค้าแบรนด์ต่างๆทั้งของเกาหลีและต่างประเทศ แกลลอรี่ต่างๆและศิปะแบบตะวันตกเอาไว้ หรือเรียกได้ว่าเป็น Europe of Seoul จุดเด่นของถนนเส้นนี้นอกจากจะเป็นร้านค้าสไตล์ยุโรปแล้ว ทั้งสองฝั่งยังเรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วย ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีใบของต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทำให้ถนนเส้นนี้คึกคักเป็นพิเศษ ใครที่ไม่อยากไปดูใบไม้เปลี่ยนสีถึงเกาะนามิ พิกกี้แนะนำให้มาที่กาโรซูกิลแทนนะคะ
*ฮงแด (Hongik Univ.) รถไฟใต้ดินสาย2 สีเขียว ลงสถานี Hongik Univ. exit 8หรือ9ปล.อีแด อิแทวอน กังนัม พิกกี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะกล้องแบตหมดค่ะ
ย่านฮงแด เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยศิลปะชื่อดังของกรุงโซลอย่าง มหาวิทยาลัยฮงอิก ถนนช็อปปิ้งเส้นนี้จะคึกคักไปด้วยนักศึกษามหาวิทยาลัยค่ะ ยิ่งช่วงเสาร์-อาทิตย์ จะมีน้องๆนักศึกษานำผลงานศิปะ แฮนด์เมด ภาพวาดต่างๆออกมาขาย รวมถึงมีการโชว์เล่นดนตรีสดๆกันแถวๆลานกลางฮงแดด้วย ย่านนี้มีคาเฟ่ชื่อดังหลายร้านที่น่าสนใจ ทั้ง Charlie Brown Cafe ร้านไก่ทอดอย่าง KyoChon พร้อมกับคาเฟ่กาแฟสุดฮิตจากซีรีย์เกาหลีชื่อดังอย่างร้าน Coffee Prince ที่ว่ามาทั้งหมดนั้นพิกกี้แค่เดินผ่านนะคะ ไม่ได้เข้าไป ไม่ใช่แนวสักเท่าไหร่ 555
ย่านนี้นักศึกษาเยอะมาก โดยเฉพาะที่ TWOSOME Cafe ของพี่หมีเท็ดดี้ Producer ของYG รวมถึงหน้าทางเข้าของมหาวิทยาลัยฮงอิกด้วย พิกกี้เองถึงจะเรียนจบมานานแล้ว แต่ก็ยังแอบแอ๊บเป็นสาวมหาลัยไปด้วย 555 |
วันที่พิกกี้ไปเป็นวันอังคาร คนเลยไม่เยอะเท่าที่ควร แถมไปตอนไฟดับทั่วฮงอิกด้วย ผู้คนดูตกใจกันมากที่ไฟดับ แต่ดับประมาณ10นาทีไฟก็มาค่ะ |
Part II Coming soon....