วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Piggy The Journey in Germany IV...The End of the Journey

จากตอนที่แล้ว...
Piggy The Journey in Germany I...Let's The Journey Begin
Piggy The Journey in Germany II...Passau, Schönberg, Grafenau, Oktoberfest
Piggy The Journey in Germany III...Munich, Weilheim, Neuschwanstein Castle, Weiskircher

ตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ เล่าไปเล่ามาก็ผ่านมาสามตอนแล้ว เยอะเหมือนกันนะคะแต่รู้สึกเหมือนยังมีอะไรอีกเยอะแยะที่อยากจะเล่า ฮาาาาาา

- Lake Starnberg หรือ Starnbergsee เป็นทะเลสาปน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของแคว้นบาวาเรีย ด้วยครอบคลุมพื้นที่ด้านยาว 20 กิโลเมตร และด้านกว้าง 5 กิโลเมตรค่ะ ทะเลสาปนี้เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องมามาพักผ่อนหย่อนใจด้วยมีวิวของภูเขาพาดผ่านทะเลสาป มีกิจกรรมหลักของที่นี่ก็จะเป็นล่องเรือชมวิว เล่นเรือใบ เจ็ตสกีค่ะ Piggyทราบมาว่าดาราที่มีชื่อเสียงหลายๆท่านนิยมมาซื้อบ้านพักตากอากาศที่นี่ไว้ค่ะ

สำหรับการเดินทาง มาได้ด้วยรถไฟค่ะ สะดวกมาก รถไฟจะวิ่งขนาบกับตัวทะเลสาปเลยค่ะ ลงที่สถานี Tutzing แล้วจะเดินตรงมาที่ทะเลสาปหรือจะแวะไปเดินเล่นในเมืองก่อนก็ได้ค่ะ
ริมทะเลสาปจะมีร้านอาหารหลายร้านค่ะ นั่งทานอาหารไปด้วย ชมวิวทะเลสาปไปด้วย ได้ฟีลลิ่งมากค่ะ Piggyเลยลองเสียตังสั่งอาหารนั่งชมวิวดู อยากรู้ว่าจะได้ฟีลลิ่งจริงไหม ฮาาาาา เรื่องเสียเงินขอให้บอก ร้านที่เลือกมีชื่อว่า H'ugo's Beachclub Undosa ร้านนี้ขนาดค่อนข้างใหญ่และมีชื่อเสียงค่ะตอนกลางวันเป็นร้านอาหารธรรมดา  ตอนกลางคืนจะจัดเป็น Pub&Restaurant โดยส่วนตัว Piggy คิดว่าบรรยากาศโอเคค่ะ ส่วนรสชาติอาหารและการบริการนั้น อืมมมมม คิดว่าต้องปรับปรุงค่ะ คืออาจจะเพราะ Piggy ไม่ชอบอาหารรสจืดสักเท่าไหร่ แต่หลายคนอาจชอบก็ได้ค่ะ แต่การบริการนั้นแย่จริงๆแถมยังรออาหารนานด้วยค่ะ


- Zugspitze : Top of Germany ยอดเขา Zugspitze ถือได้ว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,962 เมตร ในวันที่อากาศดีๆ ท้องฟ้าแจ่มใสจะสามารถมองเห็นยอดเขาต้องๆในเทือกเขาAlps ได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้เห็นยอดเขาของทั้ง 4 ประเทศคือเยอรมัน ออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ และอิตาลีค่ะ

การเดินทางนั้นง่ายนิดเดียวค่ะ นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Garmisch-Partenkirchen แล้วเดินลอดอุโมงค์ไปฝั่งตรงข้ามเพื่อจะไปซื้อตั๋วรถไฟขึ้นยอดเขาค่ะ Piggyกับน้องซื้อตั๋วรถไฟที่เรียกว่า Bayern Ticket ค่ะ เพราะใช้เดินทางได้ 24ชั่วโมง ซื้อหลายคนราคาตั๋วก็จะยิ่งถูกลงค่ะ แถมยังใช้ลดราคาสินค้าและบริการหลายๆอย่างได้ด้วย
ลงอุโมงค์มาแล้วเดินตามป้าย Zugspitzbahn เลยค่ะ
เดินลอดอุโมงค์มาเรื่อยๆจะเจอตึกสีเหลืองๆนี้ค่ะ เป็นสำนักงานขายตั๋วค่ะ
ปอลิง ถึงตรงนี้ เราจะได้เห็นประโยชน์ของ Bayern Ticket ค่ะ บัตรโดยสารรถไฟบาเยิน สามารถใช้เป็นส่วนลดซื้อตั๋วZugspitzeBahn ได้นะเออ ตอนนั้นPiggyใช้ลดได้ 15% เลยค่ะ เริ่ดจริงๆ
ยอดเขา Zugspitze ถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศเยอรมัน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,962 ม. หรือราวๆ ...

[Default= Read More at www.2madames.com/zugspitze-neuschwanstein-castle-germany/ © 2Madames.com เที่ยวแบบครอบครัว ไลฟ์สไตส์แบบครอบครัว]
ยอดเขา Zugspitze ถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศเยอรมัน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,962 ม. หรือราวๆ ...

[Default= Read More at www.2madames.com/zugspitze-neuschwanstein-castle-germany/ © 2Madames.com เที่ยวแบบครอบครัว ไลฟ์สไตส์แบบครอบครัว]
ยอดเขา Zugspitze ถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศเยอรมัน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,962 ม. หรือราวๆ ...

[Default= Read More at www.2madames.com/zugspitze-neuschwanstein-castle-germany/ © 2Madames.com เที่ยวแบบครอบครัว ไลฟ์สไตส์แบบครอบครัว]
ยอดเขา Zugspitze ถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศเยอรมัน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,962 ม. หรือราวๆ ...

[Default= Read More at www.2madames.com/zugspitze-neuschwanstein-castle-germany/ © 2Madames.com เที่ยวแบบครอบครัว ไลฟ์สไตส์แบบครอบครัว]
ได้ตั๋วเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามารอรถไฟที่ชานชาลาได้เลยค่ะ
ป้ายบนรถไฟจะมีบอกหมดค่ะว่าถึงสถานีไหน แต่ละสถานีมีอะไรบ้าง ลงสถานีนี้จะได้เที่ยวอะไร ที่ตื่นเต้นที่สุดคือ เป็นรถไฟที่วิ่งอยู่ข้างในภูเขาค่ะ คือเจาะทางรถไฟเข้าไปในภูเขา Piggyอยู่ในนั้นประมาณ 20 นาที รู้ตัวอีกทีโผล่มาอยู่บนยอดเขาแล้วค่ะ ดีจริงๆ
ปอลิง ผู้ชายในภาพที่แอบถ่ายมานั้นเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานีค่ะ หน้าตาจิ้มลิ้มถูกจริต Piggy มากค่ะ O_O
ภาพถ่ายจากในรถไฟระหว่างทางขึ้นไปยอดเขาค่ะ
ระหว่างทางจะสามารถมองลงมาเห็น Eibsee ได้ด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพถ่ายจากคุณ Shanna Pollock จาก pinterest ค่ะ
จากต้นสถานีใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงสถานีปลายทาง สถานี Zugspitzplatt ค่ะ จากนั้นต้องต่อกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปสู่ยอดเขา

บนยอดเขามีหิมะปกคลุมทั้งปีค่ะ การเล่นสกีจึงเป็นที่นิยมกันมาก
จุดที่สูงที่สุดของ Zugspitzeค่ะ
มีเบียร์การ์เด้นไว้บริการด้วยค่ะ ดื่มท้าลมหนาวกันเลย บริเวณรอบๆก็มีร้านอาหารบริการค่ะ
                 
อากาศ ข้างบนจะหนาวมากค่ะ เพื่อนๆควรเตรียมเสื้อกันหนาวหรือกันลมไปให้พร้อม ไม่งั้นมีไม่สบายกันบ้างหล่ะค่ะ ที่สำคัญคืออากาศจะเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ตอนแรกท้องฟ้าแจ่มใส สักพักเมฆและหมอกจะเคลื่อนที่มาปกคลุมอย่างรวดเร็วค่ะ Piggy แนะนำให้ตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนขึ้นไปนะคะ
ปอลิง เช็คได้ที่นี่ค่ะ http://zugspitze.de/en/winter/mountain/zugspitze เช็คได้ทั้งสภาพอากาศ ราคาค่าตั๋ว กิจกรรมต่างๆที่สามารถไปเยี่ยมชมได้ค่ะ

- Mittenwald เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของเยอรมันนีติดตะเข็บชายแดนออสเตรียเลย สามารถนั่งรถไฟตรงมาจากมิวนิคได้ค่ะ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง รถไฟสายที่มาก็มีทั้งสายที่ไป Innsbruck, Austria หรือสายที่มา Mittenwald โดยตรงค่ะ เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องไวโอลินค่ะ เพื่อนๆคนไหนสนใจก็สามารถหาข้อมูลได้จาก Information Centre เลยค่ะ
เมื่อรถไฟมาถึงสถานี Mittenwald แล้ว เพื่อนๆสามารถเดินเที่ยวชมบรรยากาศของเมืองได้โดยเดินเข้าไปด้านหน้าสถานีค่ะ จะเห็นสวนสาธารณะก่อนเลยอันดับแรก Piggy ไม่ได้ถ่ายรูปเมืองมา เพราะไปเดินแปบเดียวค่ะ
ย้อนกลับมาจุดที่ลงรถไฟตอนแรก เดินอ้อมไปอีกฝั่งของสถานีเข้าถนนลินเด็นคอพฟ์(Lindenkopfstraße) เดินไปเรื่อยๆจะเจอถนนอิซาร์เราเอ็น (Isarauenstraße) เพื่อข้ามแม่น้ำอีซาร์ (Isar) ไหลมาจากมิวนิค Piggy เรียกว่า แม่น้ำสีฟ้าค่ะ ฮาาาาา 
เราต้องเดินไปที่คาร์เว็นเดลบาห์น (Karwendelbahn) กระเช้าไฟฟ้าเพื่อขึ้นสู่ยอดเขา ตลอดทางจะมีป้ายบอกเรื่อยๆค่ะ 
เจอบันได้สูงๆเดินขึ้นไปเลยค่ะ แล้วจะเจอสถานีขึ้นกระเช้า 
Piggy ซื้อตั๋วแบบไป-กลับค่ะ คนละ 24.50 ยูโร แนะนำว่าให้เพื่อนๆเช็คเวลาให้บริการของกระเช้าให้ดีๆนะคะ วันธรรมดากับวันหยุด เวลาเปิด-ปิดไม่เหมือนกัน แถมแต่ละฤดูก็มีเวลาเปิด-ปิดไม่เหมือนกันด้วยค่ะ เช็คอากาศ เช็คเวลาให้ละเอียด จะได้ไปไม่เสียเที่ยวนะคะ
เมื่อขึ้นมาถึงข้างบนแล้วมองลงไปข้างล่างจะเห็นวิวเมือง Mittenwald ได้ทั้งเมืองเลยค่ะ
Piggyแนะนำให้เดินตามเข็มนาฬิกาค่ะ หันหลังให้อาคารรูปกล้องแล้วเดินตามเข็ม จะได้ไม่เหนื่อยมาก ถ้าเดินทวนเข็มนี่ตายแน่ๆค่ เดินกันจนขาลากขาลงนี่ต้องระวังนะคะเพราะทางค่อนข้างชัน
ข้อแนะนำสำหรับคนที่จะไปที่นี่คือ รองเท้าค่ะ ควรหารองเท้าดีๆ รองเท้าผ้าใบหนาๆ หรือรองเท้าปีนเขาไปค่ะ เพราะก้อนหินเยอะมาก 
ความพิเศษของ Mittenwald คือ เป็นชายแดนติดกับ Tirol ของประเทศออสเตรียค่ะ บนนี้จึงมีเสาแบ่งเขตแดนของสองประเทศปักอยู่ สีน้ำเงินของเยอรมัน สีแดงของออสเตรียค่ะ Piggyพอใจค่ะแล้วที่ได้มาเหยียบก้อนหินบนยอดดอยของประเทศออสเตรีย ฮาาาาาาา
ขากลับก็เช่นเดียวกับขามาเลยค่ะ เพื่อนๆควรเช็คเวลาลงของกระเช้าให้ดีนะคะว่ารอบสุดท้ายมีกี่โมง จาก Mittenwald เพื่อนๆสามารถนั่งรถไฟต่อไปออสเตรียได้เลยค่ะ
.
.
.
ทั้งหมดนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่ Piggy ได้พบเจอมา มีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี แต่อย่างน้อยสิ่งต่างๆก็สอนให้ Piggy เรียนรู้ที่จะอดทน เข้มแข็ง และต่อสู้กับอุปสรรค์ที่เกิดขึ้น  เรียนรู้การต้องอยู่และเอาตัวรอดด้วยตัวของเราเอง เป็นก้าวสำคัญอีกก้าวหนึ่งของชีวิตที่ Piggy จะไม่มีวันลืม
ขอขอบคุณผู้อุปการะคุณทุกท่าน ครอบครัวที่ยอมส่งเสียให้ไปต่างประเทศ คุณครูผู้ให้ความรู้เรื่องภาษา เพื่อนๆที่คอยอดทนรับฟังปัญหาไม่ว่าจะดึกดื่นขนาดไหน ขอบคุณตัวเองที่สามารถเข้มแข็งได้เท่าที่จะทำได้ ฮาาาาาา และขอบคุณเพื่อนๆผู้อ่านทุกท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านความเวิ่นของ Piggy ค่ะ





วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Piggy The Journey in Germany III...Munich, Weilheim, Neuschwanstein Castle, Weiskircher

จากตอนที่แล้ว...
Piggy The Journey in Germany I...Let's The Journey Begin
Piggy The Journey in Germany II...Passau, Schönberg, Grafenau, Oktoberfest

หลักจากจบการฝึกงาน Piggyก็มีเวลาว่างสองอาทิตย์ก่อนกลับไทย จึงได้ไปตะลอนทัวร์มาค่ะ โดยสองอาทิตย์นี้ Piggyได้ไปอาศัยบ้านคุณป้าอยู่ที่ พร้อมกับมีไกด์สาวซึ่งก็คือลูกพี่ลูกน้องเป็นคนนำเที่ยวตลอดทั้งทริป
จากเมืองพัสเซา Piggyพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบเขื่องสองใบ ต้องโดยรถไฟจากย้อนกลับเข้ามาที่ München Hauptbahnhofค่ะ นัดแนะกับน้องสาวไว้ว่าจะเจอกันที่นี่ พอถึงแล้วก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ lockerค่ะ จะได้ไปเที่ยวอย่างสบายตัว locker ที่ฝากกระเป๋าก็หาง่ายมากค่ะ จะอยู่ใกล้ๆกับบันไดขึ้นลง เป็นเวิ้งใหญ่ๆเลยค่ะ หาไม่ยาก! ฝากกระเป๋าเสร็จเราก็ออกไปแตะขอบฟ้ากันค่ะ!
Piggyเองค่ะ เดาเอาเนาะว่าคนไหน แหะๆ
เริ่มต้นจากของกินค่ะ! เสี้ยนอาหารไทยมากประหนึ่งจะลงแดงตาย เลยตกลงปลงใจกันที่ร้าน ม้าน้ำค่ะ Piggyขึ้นsubwayไปลงที่สถานี Rosenheimer ออกจากสถานีแล้วเลี้ยวขวา เดินอีกประมาณสามนาทีก็ถึงRosenheimer34ค่ะ จุดสังเกตุอีกอย่างคือ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นโรงแรมHiltonค่ะ ร้านม้าน้ำเป็นร้านอาหารไทยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากในมิวนิค เป็นร้านไม่ใหญ่มาก แต่คนแน่นตลอด ที่สำคัญคืออาหารรสแซ่บมากๆค่ะ 
อาหารที่ได้เยอะมากค่ะ กินกันจนจุกทีเดียว

พอหนังท้องตึงแล้วเราก็ไปลุยกันต่อค่ะ แหล่งช็อปปิ้งในมิวนิคแถวๆย่านจัตุรัสมาเรียนปลัตส์ (Marienplatz) เอาจริงๆแล้วที่ช็อปปิ้งมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหล่ะค่ะ แต่ที่ไม่เหมือนกันก็เห็นจะเป็นรูปทรงของอาคาร ที่นี่เป็นสไตล์ยุโรปเลยค่ะ ก็เราอยู่ยุโรปนี่เนาะ! มาถึงย่านนี้แล้วPiggyก็ไม่พลาดที่จะไปชมตุ๊กตาออกมาเต้นระบำบนหอคอยระฆังสูงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของศาลาว่าการหลังใหม่ค่ะ ตรงกลางหอคอยมีหอนาฬิกาที่เรียกว่า Glockenspiel ซึ่งจะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำเวลา 11 นาฬิกา และเที่ยงตรง ในหน้าร้อนจะเพิ่มรอบ 5 โมงเย็นมาอีกรอบค่ะ


หลังจากหนำใจกับมิวนิคแล้ว ก็ได้เวลากลับบ้านกันค่ะ ที่พักของPiggyอยู่เมืองที่ชื่อว่า Peißenberg เป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ใกล้กับเมืองใหญ่อย่าง Weilheim ห่างจากมิวนิคโดยรถไฟประมาณสองชั่วโมงค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่า เห้ย!เมืองอะไรไม่เห็นจะรู้จักเลย! คือจริงๆแล้วWeilheim เคยเป็นสถานที่ฝึกซ้อมฟุตบอลของสโมสรชื่อดังอย่าง Bayern Munich ค่ะ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น รวมถึงยังเป็นบ้านเกิดของมิดฟีลฝีมือดีอย่าง Thomas Müller นักเตะทีม Bayern Munich และนักเตะทีมชาติเยอรมันด้วยนะคะ
Weilheim ในวันฟ้าครึ้มฝนตก
ร้านค้าแบบบาเยิร์นสไตล์

Peißenberg เป็นเมืองเล็กๆค่ะ ใช้เวลาสำรวจวันกว่าๆก็ทั่วเมืองแล้ว Piggy ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยเพราะตอนนั้นมือถือมีปัญหาค่ะ
จาก Peißenberg สามารถไปเที่ยวปราสาท neuschwanstein ไปเที่ยว Zugspitze และ Mittenwald ได้ง่ายๆเลยค่ะ โดยนั่งรถไฟมาเปลี่ยนขบวนที่ Weilheim แล้วมุ่งหน้าไปทางที่จะไป Tyrol-Innsbruck ค่ะ
ที่แรกที่ Piggy ไปเที่ยวคือ ปราสาทneuschwansteinค่ะ ตอนแรกก็คุยกับน้องว่าจะไปกันเอง แต่โชคดีที่คุณลุงหยุดงานท่านเลยขับรถพาไปค่ะ คุณลุงขับรถไปทางเมืองชวานเกาค่ะ อยู่ก่อนถึงเมืองฟุสเซ่น แล้วเอารถไปจอดด้านหลังปราสาทเพื่อให้Piggyกับน้องเดินเข้าไปค่ะ
ระหว่างทางไปปราสาท
หาที่จอดรถได้ก็ต้องเดินต่อค่ะ ที่เห็นสีขาวไกลๆนั่นคือตัวปราสาทค่ะ
Piggyใช้เวลาเดินประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ ทั้งหลงทาง ทั้งระวังจักรยาน สุดท้ายก็ถึงทางเข้าปราสาทค่ะ ทางที่เดินมานี้จะมาโผล่ข้างๆโรงเรียน ซึ่งก็จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร จากนั้นเลี้ยวซ้ายแล้วเดินต่อก็จะเจอจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชมปราสาทค่ะแนะนำให้มาเช้าๆค่ะ จะได้ใช้เวลาเดินดูเยอะๆเพราะที่นี่เค้าจะแบ่งให้เข้าชมเป็นรอบๆค่ะ หมดเช้าก็ต้องรออีกทีตอนบ่ายเลย

ประวัติของปราสาทนั้นก็มีคนมาให้ข้อมูลเยอะแล้ว งั้นPiggyขอลงแบบพอสังเขปละกันนะคะ
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle หรือ Schloss Neuschwanstein ในภาษาเยอรมัน) เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย (Ludwig II of Bavaria) ในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก เป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายและสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ 
ครั้งนี้ Piggy ไม่ได้ซ้อตั๋วเข้าชมปราสาทค่ะ เพราะมาตอนบ่ายแก่ๆแล้ว เลยคุยกับน้องว่าเราจะขึ้นไปดูสะพาน Marienbrucke แล้วถ่ายรูปเอาก็ได้จากนั้นค่อยเดินลงมา ถัดจากจุดจำหน่ายตั๋วด้านขวามือจะเป็นจุดขึ้นรถม้าค่ะ เดินไปอีกหน่อยจะเป็นปราสาทโฮเฮนชวานเกา (Hoheschwangau Castle) ส่วนด้านซ้ายมือจะเป็นจุดขึ้น Shuttle bus ค่ะ
ปราสาทโฮเฮนสวานเกา
การขึ้นไปชมปราสาท ทำได้ 3 วิธี ค่ะ คือเดินขึ้นไป (ข้อดีคือไม่ต้องรอคิวขึ้นรถและไม่เสียเงิน แต่ค่อนข้างเหนื่อยและไกล ประมาณ2กิโลเมตรค่ะ) นั่งรถshuttle bus (ค่าโดยสารคนละ 2 ยูโร) หรือ นั่งรถม้า (ค่าโดยสารคนละ 3 ยูโร) Piggyเลือกนั่งรถShuttleค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีถึงสะพานMarienbrückeค่ะ
Neuschwanstein Castle ถ่ายจากสะพาน Mariennbrucke

ซ้ายมือ Hohenschwanga Castle และบริเวณเมืองชวานเกา
Neuschwanstein Castleระหว่างเดินกลับที่จอดรถ
จากนั้นคุณลุงได้พาPiggyไปชมโบสถ์Wieskirche หรือโบสถ์วีร์
ตั้งอยู่ในเมืองโชนเกา อยู่บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ใกล้เมืองชไตนการ์เด็น (Steingaden) รัฐบาเยิร์น ทางใต้ของประเทศเยอรมนี
ภายในโบสถ์ตกแต่งในสไตล์ Rococo ที่สมบูรณ์แบบที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
 ช่วงที่Piggyไปทางโบสถ์มีการปรับปรุงค่ะ ดังนั้นบางส่วนจึงไม่สามารถเข้าชมได้

ทุ่งหญ้าด้านหลังโบสถ์
ตอนหน้า Piggyจะพาไป Lake Stranberg, Zugspitze และ Mittenwald ค่ะ

กระทู้สุดท้าย...Piggy The Journey in Germany IV...The End of the Journey